พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พบคนรุ่นใหม่ชายแดนใต้ใน กทม. เผยของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้มากที่สุดคือ ‘รัฐบาลใหม่’

วันนี้ (26 ธ.ค.64) เมื่อเวลา 20.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้มาพบกลุ่มนักศึกษา ประชาชน กว่า 50 คน ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ศึกษาหรือทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยนัดพบที่ร้าน Hela Cafe ซอยรามคำแหง 53/1 ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมเยือนและรับทราบปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องที่ได้จากบ้านมาไกลด้วยความเป็นห่วง พร้อมทั้งได้มอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคประชาชาติเป็นของขวัญปีใหม่ด้วย




นักศึกษาส่วนใหญ่บอกว่า หมดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ และได้เสนอมุมมองให้พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาอย่างกว้างขวาง ที่มีนักศึกษาหลากหลายสถาบันทั้งในกรุงเทพ ต่างจังหวัด และมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย อียิปต์ ที่ในช่วงวิกฤติโควิดต้องศึกษาทางออนไลน์ ได้เสนอแนวทางการพัฒนาด้านต่างๆ ปัญหาที่พบเห็น และปัญหาความเป็นจริงในบริบท 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นห่วงคือการที่รัฐบาลได้ปลดกฎหมายให้กัญชาและพืชกระท่อมเสรี สามารถหาซื้อและรับประทานได้โดยง่ายนั้น ส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดในหมู่บ้านและวิถีชีวิตของประชาชนอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมจริงของผู้คนในสังคมแล้ว ไม่ได้นำพืชดังกล่าวมาใช้เป็นยารักษาโรค แต่มักไปบริโภคในลักษณะของการผสมให้มึนเมามากกว่า จึงส่งผลกระทบต่อนักศึกษาอย่างมาก นอกจากนี้มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความไม่สงบและในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงมีเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งมองว่าเห็นด้วยกับ ส.ส.พรรคประชาชาติ ที่พยายามเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการพูดคุยนำไปสู่การแก้ปัญหา และทราบถึงผลการพูดคุยหว่างรัฐบาลกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนไม่รับรู้ความคืบหน้าหรือรายละเอียดของการเจรจาเลย ทั้งที่ประชาชนคือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ในด้านข้อเสนอแนะการปฏิรูปการศึกษานั้น ต้องมาจากผู้เรียนเป็นผู้กำหนดนโยบาย และให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ปฏิบัติ มิใช่ให้กระทรวงเป็นผู้กำหนดหรือบังคับผู้เรียนเสมือนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา และนอกจากนี้การศึกษายังมีความเหลื่อมล้ำ คนยากจนยังไม่เข้าถึงการศึกษาแม้จะมี กยศ.แล้ว เช่น เมื่อกู้เงิน กยศ.แล้ว หลังเรียนจบกลายเป็นผู้ติดหนี้สิน ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินชำระหนี้ ถูกรัฐยึดทรัพย์สิน เป็นต้น และนอกจากนี้นักศึกษายังเป็นห่วงปัญหาการปลุกปั่นสร้างความขัดแย้งและความแตกแยกทางชาติพันธุ์และศาสนาของคนบางกลุ่มซึ่งอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งระดับชาติได้ในอนาคต


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้มารับฟังเสียงของเยาวชนคนรุ่นใหม่ และสะท้อนปัญหาที่เป็นประโยชน์มาก ทำให้ทราบว่าของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้มากที่สุดคือการเลือกตั้งใหม่เพื่อให้ได้รัฐบาลชุดใหม่มาบริหารประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชาติได้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และยังเสนอแนะกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่จะคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนไทยทั้งประเทศ ส่งผลดีในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเด็นนี้เป็นที่สนใจหลังจากมีเหตุการณ์ผู้กำกับโจ้ซ้อมทรมาน ซึ่งรัฐบาลเร่งนำร่างกฎหมายนี้เข้าสภาแต่ที่กรรมาธิการตัวแทนฝ่ายรัฐบาลได้สงวนคำแปรญัตติไม่เห็นด้วยเกือบทุกมาตรา นักศึกษาได้ติดตามพรรคประชาชาติได้อภิปรายและข้อหารือประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ความสำคัญต่อญัตติที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าสภา อีกทั้งได้ให้ความสำคัญกับการตั้งคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่าง พ.ร.บ.บำนาญผู้สูงอายุ ที่เป็นหลักสวัสดิการถ้วนหน้า ที่พรรคประชาชาติได้เสนอไป แม้นายกรัฐมนตรีจะตีว่าเป็นร่างกฏหมายการเงิน ไม่ผ่านให้ และไปร่างเป็นกฏหมายของรัฐบาลแทนก็ตาม นักศึกษาเห็นว่ากฏหมายที่พรรคประชาชาติเสนอเป็นกุญแจสำคัญที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ โดยร่างของพรรคประชาชาติเสนอคือ กยศ.ไม่มีดอกเบี้ยและไม่มีเบี้ยปรับ และมีข้อเสนอที่สอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชนด้านการศึกษาของสหประชาชาติ แต่น่าเศร้าใจที่รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญในการแก้ปัญหาการศึกษา ไม่เห็นด้วยกับร่างที่เสนอไป แต่รัฐบาลยกร่างขึ้นมาใหม่ตามปรากฎที่เป็นข่าว






พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวอีกว่า ก้าวต่อไปของพรรคประชาชาติจะต้องเป็นผู้นำด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การศึกษา สังคม การเกษตร เทคโนโลยี ด้านพหุวัฒนธรรม การกระจายอำนาจ ความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน รวมถึงความเหลื่อมล้ำที่เกิดจากการพัฒนาที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ได้เสนอให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศ ในทางพัฒนาที่ดี หากประชาชาติได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเราตั้งใจที่การเลือกตั้งทั้ง 12 เขตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกเป็นผู้แทนมากกว่าครั้งที่ผ่านมา



โดย พรรคประชาชาติ
Facebook
Twitter