ชื่อพรรคประชาชาติ ชื่อย่อ ปช. เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Prachachat Party ชื่อย่อ PCC. ( ประชาชาติ อ่านว่า ประ-ชา-ชาด ) ความหมายของคำว่า ประชาชาติ
ประชา หมายถึง หมู่คนกลุ่มคนหลากหลายมวลชนประชาชน
ชาติ หมายถึง ชีวิตหลายชีวิตเผ่าพันธุ์วัฒนธรรมประเทศ
พรรคประชาชาติ หมายถึง พรรคการเมืองที่ประกอบด้วยพลเมืองของประเทศที่มีความหลากหลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรม
“หลากหลายสีและดวงดาว สัญลักษณ์คุณค่าความดีงามและเก่งกล้า ทุกชาติพันธุ์ร่วมสร้างสังคมสันติสุข”
เป็นกลุ่มการเมืองที่ยื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรคต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นลำดับที่ 6/2561 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดยมีนาย สุรพล นาควานิช เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ยื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรค ซึ่งนายสุรพลมีนามสกุลเดียวกับ พลเอกธีรชัย นาควานิช อดีตองคมนตรีและอดีต ผู้บัญชาการทหารบก และพลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่านายสุรพลเป็นเครือญาติกับทั้งสองท่านหรือไม่ซึ่งพลเอกธีรชัยและพลโทปิยวัฒน์ได้ออกมาปฏิเสธว่านายสุรพลไม่ได้เป็นเครือญาติกับทั้งสองท่าน
ต่อมานายสุรพลได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์มติชนว่าได้พูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับ กลุ่มวาดะห์ ในสังกัด พรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องการย้ายมาสังกัดพรรคประชาชาติ ซึ่งกลุ่มวาดะห์ทั้งหมดได้ตัดสินใจย้ายมาสังกัดพรรคประชาชาติ
กระทั่งนาย ซูการ์โน มะทา แกนนำกลุ่มวาดะห์และเป็นน้องชายของนาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีต ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่าทางกลุ่มวาดะห์ได้ย้ายมาสังกัดพรรคประชาชาติจริงตามกระแสข่าว
ซึ่งนาย อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มวาดะห์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าทางพรรคเตรียมจัดการประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรกในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561 ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งผลปรากฏว่านาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนแรก นาย วรวีร์ มะกูดี อดีตนายก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนแรกและได้มีการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคต่อ กกต. เมื่อวันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561
กระทั่งวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ ๕๗/๒๕๖๑ (๒๑) ที่ประชุมมีมติรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคประชาชาติพร้อมกับพรรคการเมืองอีก 2 พรรคคือ พรรคแผ่นดินธรรม และ พรรคพลังชาติไทย
(๑) พรรคประชาชาติ มีเป้าประสงค์เพื่อดำเนินกิจการทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ที่สมาชิกพรรคมาจากหลากหลายอาชีพ วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ และถิ่นกำเนิด ร่วมกันพัฒนาการเมืองตามวิถีประชาธิปไตย ทั้งในฐานะประชาชนและพลเมืองของโลก
(๒) พรรคประชาชาติเชื่อว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน จึงต้องส่งเสริมการกระจายอำนาจให้ประชาชนและองค์กรท้องถิ่น โดยรัฐเป็นผู้กระจายความสุขและผลประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างสมดุล
(๓) พรรคประชาชาติ เชื่อว่าประโยชน์สูงสุดของประชาชนและความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งเดียวกัน จึงมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน แก้ไขปัญหาความยากจน ขจัดการผูกขาดและความเหลื่อมล้ำทั้งด้านสิทธิ โอกาส อำนาจ และศักดิ์ศรี ตลอดจนลดปัจจัยเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเสริมสร้างระบบสวัสดิการทางสังคมแก่ประชาชน
(๔) พรรคประชาชาติ เชื่อว่าการแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม การกดขี่ การกระทำทุจริต และความขัดแย้งในสังคมต้องใช้กระบวนการประชาธิปไตยและความยุติธรรมบนฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตามแนวทางสันติวิธี โดยรัฐต้องมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม รวมทั้งต้องไม่ใช้วิธีการแก้ไขโดยใช้กำลังหรืออำนาจเผด็จการที่ไม่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย หรือ กระทำการใดๆ ให้ประชาชนหวาดกลัวและจำยอม
(๕) พรรคประชาชาติ เชื่อว่าความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา จารีตประเพณี และความคิด เป็นลักษณะทั่วไปของสังคมพหุวัฒนธรรม ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน แบ่งปัน และเกื้อกูลกัน พรรคประชาชาติจึงมุ่งขจัดการครอบงำ หรือเลือกปฏิบัติทางวัฒนธรรมโดยไม่เป็นธรรม
(๖) พรรคประชาชาติ เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีคุณค่าและมีศักยภาพ มนุษย์จึงเป็นเป้าหมายหลักที่จะต้องได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม ทั่วถึง และมีอิสระ เพื่อจะได้เป็นทรัพยากรสำคัญในการพัฒนาประเทศและสังคมโลก
(๗) พรรคประชาชาติ เชื่อว่ามนุษย์มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหมายถึง การอยู่ร่วมกันอย่างเคารพในสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีของบุคคลอื่น เคารพในกติกาที่ร่วมกันสร้าง และทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม
(๘) พรรคประชาชาติ เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นปรากฏการณ์ปกติของสังคม มนุษย์จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ การศึกษาวิจัย และการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี อันจะนำไปสู่ความเจริญผาสุกของประชาชาติ
(๙) พรรคประชาชาติ เชื่อว่าประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก จึงมุ่งที่จะส่งเสริมและแสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ภูมิภาค อนุภูมิภาค และประชาคมโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการเมืองเพื่อสร้างความเข็มแข็งของพหุวัฒนธรรมในบริบทโลก