"หลากหลายสีและดวงดาว สัญลักษณ์คุณค่าความดีงามและความเก่งกล้า

ทุกชาติพันธุ์ ร่วมสร้างสันติสุข"

นโยบายพรรคประชาชาติ

            พรรคประชาชาติให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมและเปิดโอกาสให้สมาชิกร่วมกําหนด นโยบาย พัฒนาการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงมีส่วนร่วมในกระบวนการคัดสรร ผู้สมัครรับเลือกตั้งในระบบต่างๆ ตลอดจนการกําหนดมาตรการและกลไกที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อน เพื่อให้มีการดําเนินการตามนโยบาย รวมถึง การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลและชุมชน โดยมี นโยบาย ดังนี้

สารบัญ

1. นโยบายพื้นฐาน

            ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เป็นประชาธิปไตย รวมถึง อํานวยการให้ การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ เป็นไปด้วย ความยุติธรรม เสมอภาค สามารถปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตลอดจน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยธํารงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน โดยรวม

2. นโยบายเฉพาะของพรรค

          ส่งเสริม “สังคมพหุวัฒนธรรม” ที่เคารพในความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ถิ่นกำเนิด ความเชื่อ และอุดมการณ์ อันจะนำไปสู่ความเป็น “ประชาชาติ” ที่ชาติคือประชาชนที่มีความแตกต่างหลากหลาย เป็นพลเมืองของประเทศที่อยู่ร่วมกันอย่างเสมอหน้าและสันติ มีความเคารพ รวมถึง เอื้ออาทรต่อกันภายใต้การรับรองโดยกฎหมาย อีกทั้ง มุ่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามหลักนิติธรรม ส่งเสริมแนวทางสันติวิธี กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ยุติธรรมทางเลือก ตลอดจนการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุต่างๆ ในทุกด้าน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพใน “สังคมพหุวัฒนธรรม” 

3. นโยบายรวม

3.1 ด้านการบริหารและการปกครอง

          มุ่งเน้นการกระจายอำนาจหน่วยราชการจากส่วนกลางสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ หรือตามสาขาอาชีพที่หลากหลาย โดยใช้ฐานของท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนในการตอบสนองความความต้องการของประชาชน แก้ไขปัญหา และขจัดความเหลื่อมล้ำทางด้านสิทธิ โอกาส อำนาจ และศักดิ์ศรี ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย การวางแผน การตัดสินใจ และการพัฒนา ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะและตัดสินใจแก้ไขปัญหาในพื้นที่ สำหรับท้องถิ่นใดมีลักษณะที่จะปกครองตนเองได้ย่อมมีสิทธิจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในพื้นที่นั้น โดยการปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถมีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ โดยเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ และมีเป้าหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน

          กรณีเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น ภูเก็ต จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ จะส่งเสริมให้มีการปกครองในรูปแบบพิเศษตามหลักแห่งการปกครองตนเองที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่นภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ กระชับและคล่องตัวในการให้บริการสาธารณะและตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ส่วนกรุงเทพมหานคร จะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารตั้งแต่ระดับเขตจนถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แก้ปัญหาการจราจร กำจัดขยะและสิ่งปฏิกูล รวมถึงทบทวนและย้ายหน่วยงานหรือองค์กรของรัฐออกจากศูนย์กลางเมืองเพื่อลดความแออัดและพัฒนารูปแบบตลอดจนโครงสร้างของเมืองและบริการสาธารณะสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (smart city) รวมถึง และปรับโครงสร้างทางการบริหารที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยยึดหลักธรรมาภิบาล

          ปฏิรูประบบการจัดทำงบประมาณแผ่นดินให้มีความสมดุลกับการจัดเก็บรายได้และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ จัดสรรงบประมาณเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยจัดตั้ง”สถาบันอิสระ”

          อิสระในสังกัดสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตรวจสอบ วิเคราะห์ ติดตามผลระบบงบประมาณแผ่นดิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำงบประมาณทุกขั้นตอนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งสร้างความเป็นธรรมและเพิ่มประสิทธิภาพในระบบภาษีอากร อาทิ จัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ครอบคลุมรายได้จากทรัพย์สินมรดกและทรัพย์สินทุกประเภทอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลจะมีการปฏิรูปหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจของเจ้าพนักงานในการจัดเก็บภาษี เป็นต้น

          ขจัดและป้องกันการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ ปรับโครงสร้างและปฏิรูประบบราชการด้วยการแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้าราชการ บุคลากรของรัฐ และองค์กรต่างๆ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงเป้าหมาย และสอดคล้องกับการพัฒนา โดยต้องลดขนาดกำลังคน เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใส ให้สามารถตรวจสอบได้ในวงกว้างและเชื่อมโยงกับทุกฝ่าย รวมถึงต้องถ่ายโอนบางภารกิจของภาครัฐให้ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมดำเนินการแทน พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมายความมั่นคงภายในให้มีความสมดุลกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคง      โดยคำนึงถึงความผาสุกของประชาชนเป็นหลัก 

          ส่งเสริมความยุติธรรมในอาชีพข้าราชการทุกประเภทตามหลักธรรมาภิบาล  รวมถึง ให้คัดเลือก สรรหา หรือเลือกตั้งจากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ หรือมีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อดำรงตำแหน่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายที่เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศหรือตำแหน่งตัวแทนของประเทศ

3.2 ด้านการต่างประเทศ

          ส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือกับนานาประเทศ และถือหลักในการปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค ตลอดจนปฏิบัติตามสนธิสัญญา อนุสัญญา และความตกลงว่าด้วยเรื่องต่างๆ ที่ประเทศไทยเป็นภาคี รวมทั้งตามพันธกรณีที่ได้กระทำไว้กับนานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ส่งเสริมการค้า การลงทุน สังคม การศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และแรงงานกับนานาประเทศ โดยเฉพาะกับอาเซียน พร้อมกับให้ความคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ ตลอดจนสร้างความสามารถทางเศรษฐกิจ  ให้ไทยได้รับการยอมรับ มีเกียรติและศักดิ์ศรีในสายตานานาชาติ

          เน้นการสร้างความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับประเทศในเขตวัฒนธรรมเดียวกัน เช่น เขตวัฒนธรรมมลายู ซึ่งประกอบด้วยชายแดนภาคใต้ของไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ และกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา และจีน ตลอดจนเร่งฟื้นฟูและปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีของไทยกับบางประเทศให้กลับสู่ภาวะปกติ เช่น ความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น

3.3 ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

          ผลักดันให้มีการยกเลิกและปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ไม่จําเป็น ไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชนเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน และกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในขณะที่ประเทศไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย รวมถึงให้มีการบัญญัติหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับระบบอนุญาตไว้ในกฎหมายและพึงยกเลิกระบบที่ให้อำนาจคณะกรรมการในการใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาต อนุมัติ หรือสั่งการ ซึ่งเป็นต้นเหตุหนึ่งของความไม่เป็นธรรมและเป็นช่องทางในการทุจริต ตลอดจนส่งเสริมให้ทนายความ นักกฎหมาย และนักวิชาการ รวมทั้งสถาบันการศึกษา ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง อีกทั้ง การร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ต้องให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีส่วนร่วม มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและให้นำผลการรับฟังความคิดเห็นมาแสดงให้สาธารณะ ได้ทราบและมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านได้ด้วย

          จัดตั้งองค์กรเพื่อการปฏิรูปกฎหมายทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคที่เป็นอิสระในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งมาจากการเลือกกันเองของบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และหลากหลายอาชีพ เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายหลังกฎหมายใช้บังคับแล้ว รวมทั้งส่งเสริมให้มีหน่วยงานคณะกรรมการกฤษฎีกาประจำจังหวัดหรือท้องถิ่นบางแห่งที่มีความจำเป็น ปฏิรูปองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีที่มาจากตัวแทนสหวิชาชีพและมีความยึดโยงกับประชาชน ตลอดจนมีกลไกในการตรวจสอบและถ่วงดุลคำสั่งหรือคำพิพากษา 

          ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการยุติธรรม ได้แก่ งานตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ กรมบังคับคดี และกระทรวงยุติธรรม รวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีการตรวจสอบถ่วงดุลเพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ รวมถึง มีการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในทางอาญาเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิพื้นฐานในกระบวนพิจารณา เช่น สิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราว หรือขั้นตอนการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือองค์กรที่มีหน้าที่สอบสวนในทางอาญา ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานและมาตรฐานการสอบสวน อีกทั้งจะต้องกระทำในรูปขององค์คณะเพื่อป้องกันการแทรกแซงที่ไม่เป็นธรรมและให้ถือมติเสียงข้างมากในการ มีความเห็นทางคดี เป็นต้นรวมถึง ให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ศาลเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางและต้องไม่ใช่หน่วยงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำให้ตาย ร่วมเป็นผู้สอบสวนสาเหตุการตายที่เกิดจากการวิสามัญฆาตกรรม หรือ การตายที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงให้ดำเนินการไต่สวนอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

          ปฏิรูประบบราชทัณฑ์ที่มีผู้ต้องขังแออัดและสุขอนามัยขัดหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งให้ปฏิบัติต่อผู้ต้องหาหรือจำเลยก่อนคำพิพากษาคดีถึงที่สุดตามรัฐธรรมนูญซึ่งถือว่ายังไม่ใช่ผู้กระทำผิด จะปฏิบัติเหมือนนักโทษเด็ดขาดไม่ได้

            ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูล ได้แก่ ระบบข้อมูลขนาดใหญ่ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ระบบคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ มาใช้ในงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ป้องกันการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการ การตรวจสอบถ่วงดุลเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม และผู้บังคับใช้กฎหมายอื่น ตลอดจนตรวจสอบทบทวนสัญญา รวบรวม คัดกรองข้อมูลเกี่ยวกับคดี รวมถึงการใช้คลังข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบที่สามารถนำไปวิเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกฎหมายอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม

3.4. ด้านเศรษฐกิจ

          ส่งเสริมและสนับสนุนระบบเศรษฐกิจกระแสหลักแบบเสรีและเป็นธรรม หรือ  ระบบเศรษฐกิจแบบทางเลือก ที่หมายรวมถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่มุ่งใช้องค์ความรู้ การสร้างสรรค์งานทรัพย์สิน ทางปัญญา เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตลอดจนระบบเศรษฐกิจฐานคุณธรรม ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือดูแล ผู้เดือดร้อน และธุรกรรมทางการเงินที่สอดคล้องกับหลักการทางศาสนา 

3.4.1 เศรษฐกิจภาพรวม

          ยกเลิกและละเว้นการตรากฎหมายและกฎเกณฑ์ซึ่งมีบทบัญญัติที่ไม่สอดคล้องกับความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ให้การประกอบกิจการมีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ป้องกันและขจัดสัมปทานการผูกขาด ควบรวม ครอบงำ หรือซื้อกิจการของกลุ่มทุน รวมทั้งสนับสนุนสินค้าไทยที่ได้มาตรฐานอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการทุ่มตลาดจากสินค้าข้ามชาติ ปฏิรูปสถาบันการเงินทั้งรัฐและเอกชนที่มุ่งหารายได้และกำไรที่มากเกินควรจากค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย หรือค่าบริการที่เรียกเป็นอย่างอื่น พร้อมทั้ง ให้สถาบันการเงินของรัฐให้ยึดนโยบายหลักด้านการช่วยเหลือทางสังคมและเศรษฐกิจแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ 

          จัดให้มีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ส่งเสริมและขยายโอกาสในการประกอบอาชีพ พร้อมกับพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานในการคมนาคม ทั้งในส่วนของรถไฟและสนามบินในภูมิภาค

          พัฒนาเศรษฐกิจเชิงนิเวศวัฒนธรรมของท้องถิ่นต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์ รวมทั้งเพื่อให้เกิดการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมตามศักยภาพบุคคลในท้องถิ่นที่มีความชำนาญและโดดเด่นในแต่ละสาขาการผลิต ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน  ทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมุ่งสร้างหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ ที่ไทยเป็นสมาชิก ตลอดจนพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนกับประเทศยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคและนอกภูมิภาค 

          ส่งเสริมการค้าชายแดนครบวงจร สร้างความเชื่อมั่นและแรงจูงใจในการลงทุน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์กับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีการเชื่อมโยงกับประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน โดยใช้ศักยภาพทางภาษาและวัฒนธรรมเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้จะร่วมมือกับประเทศมาเลเซียอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนที่ยากจนในพื้นที่ ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหารไทยหรือร้าน “ต้มยำ” พร้อมกับยกระดับแรงงานท้องถิ่นและเร่งจัดหาแหล่งงานในประเทศเพื่อนบ้าน

          ส่งเสริมเศรษฐกิจทางเลือกที่สอดคล้องกับศักยภาพ องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึง ความถนัดของประชาชนและท้องถิ่นส่งเสริมประชาชนในการประกอบกิจการอิสระผ่านการทำธุรกิจออนไลน์ ส่งเสริมสนับสนุนนักธุรกิจรุ่นใหม่และผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ผ่านการตั้งกองทุนและวิธีการอื่นๆ ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจครบวงจรและธุรกิจเครือข่ายให้เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ ส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่จำเป็นต้องประกอบอาชีพในภาคเศรษฐกิจแบบไม่เป็นทางการ เช่น หาบเร่แผงลอย คนทำงานภาคกลางคืน รวมทั้งความสำคัญกับมาตรการการคุ้มครองผู้บริโภคตามกฎหมาย 

          พัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานคุณธรรม โดยส่งเสริมการจัดตั้งกองทุนกิจการเพื่อสังคม เพื่อช่วยเหลือดูแลผู้เดือดร้อนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันทางการเงิน สหกรณ์ หรือกองทุน ที่เปิดช่องให้ดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่สอดคล้องกับหลักการทางศาสนา เช่น สถานธนานุบาลปลอดดอกเบี้ย เป็นต้น

          ในระดับหมู่บ้านและชุมชน ดำเนินการพัฒนาอย่างเสมอภาคและสอดคล้องกับวิถีชีวิต อัตลักษณ์ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม ตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และพัฒนาประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ และจัดสวัสดิการสังคมอย่างทั่วถึง สนับสนุนครัวเรือนที่มีความพร้อมเป็นผู้ประกอบการ รวมทั้งยกระดับ OTOP และวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนเป็น “หนึ่งอำเภอหนึ่งอุตสาหกรรม”   

3.4.2 แก้ปัญหาความยากจนและหนี้สินภาคประชาชน

          ให้ความสำคัญกับแก้ไขปัญหาความยากจนกลุ่มครัวเรือนรากหญ้าด้วยให้ความรู้ ทักษะ และเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ปัจจัยการผลิตต่างๆ โดยเฉพาะที่ดินทำกิน และตลาด ส่วนผู้ยากจนข้นแค้นจะช่วยเหลือด้วยการสังคมสงเคราะห์ เช่น ที่พักอาศัย เงินสงเคราะห์รายเดือน

            ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและแก้ปัญหาลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่อาจช่วยตัวเองได้ โดยจัดตั้งสถาบันช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การจัดตั้งธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank)    ที่มีรูปแบบการแก้ปัญหาหลายวิธีตามความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อาทิ การซื้อหนี้เสียและหลักทรัพย์ค้ำประกันหลักทรัพย์ค้ำประกันของลูกหนี้ ที่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงินได้นำลูกหนี้และหลักทรัพย์ค้ำประกันไปไว้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ เข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือโดยยึดแนวทาง “ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน คือ ลูกหนี้จะไม่ถูกฟ้องร้องและจะได้ทรัพย์คืน เจ้าหนี้จะได้รับการชำระหนี้ และรัฐบาลจะไม่เสียหาย” การช่วยเหลือจะขายหนี้คืนให้กับลูกหนี้ในราคาเท่าทุน เพื่อเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูลูกหนี้ให้กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติโดยการพักชำระหนี้ และมีมาตรการหรือวิธีการฟื้นฟูอาชีพลูกหนี้ให้มีรายได้เพียงพอในการชำระหนี้คืน เป็นต้น

          นอกจากนี้ จะจัดให้มีการสอบทานและทบทวนการบริหารจัดการกองทุนที่ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในรูปองค์การมหาชน องค์การของรัฐที่เป็นอิสระ หรือ กองทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่น เพื่อการพัฒนาหรือที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและบริหารจัดการของกระทรวง ทบวง กรม หรือ หน่วยงานที่เรียกเป็นอย่างอื่นที่ผลการประเมินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่คุ้มค่าให้ปฏิรูปและส่งเสริมให้จัดตั้งบรรษัทบริหารจัดการกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (National Development and Management Fund/ NDMF)  เพื่อใช้เป็นกลไกในการสร้างความเข็มแข็งให้กับคนรากหญ้า ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและ กรณี กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ก็จะมีการตั้งกองทุนในลักษณะเดียวกันเพื่อส่งเสริมสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งให้มีการชะลอหรือเจรจาไกล่เกลี่ยให้มีการชำระหนี้แบบผ่อนปรนโดยหลีกเลี่ยงการฟ้องร้องดำเนินคดี หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการกู้ยืม การเจรจา การปรับโครงสร้างหนี้ ที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีการนำมาตรการหรือมาตรฐานสิทธิมนุษยชนมาปฏิบัติ รวมทั้งจัดตั้ง “บรรษัทบริหารจัดการกองทุนเพื่อคนรากหญ้า” ( Wealth Management Fund for the Grassroots/WMFG) หรือ “บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์แห่งชาติเพื่อคนรากหญ้า” (National Assets Management Company for the Grassroots/NAMCG) เพื่อรับซื้อหรือโอนหนี้มีปัญหาหรือหนี้เสียมาบริหารจัดการโดยไม่ทำลายวิธีปฏิบัติของธุรกรรมการกู้ยืมเงิน

3.4.3 เศรษฐกิจการเกษตร

          สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรและถือเป็นวาระของชาติ คุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรในการผลิตและการตลาดให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุด เน้นการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรในรูปสภาเกษตรกรเพื่อวางแผนการเกษตรและรักษาผลประโยชน์ร่วม สนับสนุนและคุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เป็นอิสระ รวมทั้งขจัดและป้องกันการผูกขาดระบบการเกษตรทั้งทางตรงและทางอ้อม 

          จัดตั้งและปรับปรุงองค์กรเพื่อพัฒนาการตลาดการเกษตร เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการราคาสินค้าเกษตรให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภคและสามารถเชื่อมโยงกับตลาดภายในและตลาดโลก 

          ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและประมงพื้นบ้านเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมศักยภาพเกษตรกรรายย่อยและชุมชนท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันในระดับชาติ โดยให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการผลิตและส่งเสริมการจำหน่าย 

          ยกระดับความสามารถของวิสาหกิจท้องถิ่นเกี่ยวกับอาหารและให้มีบทบาทหลักในระบบกระจายอาหาร ไม่ถูกผูกขาดโดยกลุ่มทุน ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชเพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บรักษาและปรับปรุงพันธุ์พืชที่ตนใช้เพาะปลูกได้ ส่งเสริมวิสาหกิจเมล็ดพันธุ์ ตลอดจนขยายระบบชลประทาน โดยเน้นระบบชลประทานในไร่นาแทนการสร้างโครงการชลประทานขนาดใหญ่

          กรณีจังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาการเกษตรและการปศุสัตว์ ที่สอดคล้องกับระบบนิเวศ ต่อยอดและพัฒนาการเกษตรพื้นบ้าน เช่น สวนดูซง (สวนไม้ผลผสมผสาน) สวนทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน การปลูกข้าวพันธุ์พื้นบ้าน ตลอดจนส่งเสริมการแปรรูปพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 

3.5 ด้านสังคม

          ส่งเสริมและสนับสนุน “สังคมพหุวัฒนธรรม” ที่กลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา และความเชื่อต่างๆ สามารถดำรงชีวิตอย่างสอดคล้องกับวัฒนธรรม ประเพณี และตามความสมัครใจ โดยไม่มีการผูกขาด ครอบงำ หรือเลือกปฏิบัติ ทุกคนได้รับการส่งเสริมศักยภาพให้เกิดเป็นคุณค่าและเป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศ โดยผลักดันให้มีมาตรการคุ้มครองสังคมพหุวัฒนธรรมตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และป้องกันการยุยงปลุกปั่นหรือสร้างความเกลียดชังโดยอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับพัฒนาสังคมในแต่ละด้านดังนี้  

3.5.1 เด็กและเยาวชน

          เด็กและเยาวชนมีสิทธิในการอยู่รอด ได้รับการปกป้องคุ้มครอง และได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาตามศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการ มีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ เด็กและเยาวชนซึ่งไม่มีผู้ดูแลมีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอบรมที่เหมาะสมจากรัฐ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและดูแลเด็กกำพร้า เด็กพิเศษ ตลอดจนเด็กที่เป็นบุตรของแรงงานข้ามชาติ 

          มีมาตรการเพื่อสร้างผู้นำเยาวชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนประชาธิปไตยเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำพาประเทศชาติในอนาคต พร้อมกับสนับสนุนให้มีการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจแก่เยาวชน 

          แก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งด้านการป้องกัน ปราบปราม บำบัด ฟื้นฟู ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดจนนำมาตรการที่สัมฤทธิ์ผลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึง ผลการวิจัยเกี่ยวกับตัวยาและสารเสพติดมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับบริบทสังคมไทย กรณีเด็กและเยาวชนที่ติดยาเสพติด ส่งเสริมการนำระบบ “ยุติธรรมทางเลือก” มาใช้ในการแก้ปัญหาที่เอื้อต่อบทบาทของครอบครัว ผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชน ในการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ใช้วิธีการแก้ไขแทนการลงโทษ ใช้การกีฬาเพื่อเป็นกลไกในการบูรณาการเยาวชนกับระบบเศรษฐกิจเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างงาน สร้างรายได้ เข้าสู่ชุมชนและสังคม  ตลอดจน ป้องกันและแก้ไขการแพร่ระบาดของยาเสพติด เช่น กรณีจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดน้ำต้มใบกระท่อม สนับสนุนให้มี “สภาเยาวชน…” เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนได้เรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  โดยให้มีการฝึกอบรมเสวนาผ่าน “สถาบันพัฒนาประชาธิปไตย” รวมถึง ทำความรู้จักและดูแลซึ่งกันและกัน ส่งเสริมสนับสนุนให้มี “ศูนย์กีฬาประจำตำบล” รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ศาสนบำบัดยาเสพติดครบวงจร

3.5.2 การศึกษา

          การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานและเป็นเสรีภาพของบุคคล โดยสนับสนุนการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาปฐมวัย พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับและ ทุกรูปแบบให้เท่าเทียมกันและได้มาตรฐานนานาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาความคิด สติปัญญา และศักยภาพของผู้เรียน ให้มีการบูรณาการทั้งทางสติปัญญา จิตวิญญาณ วุฒิภาวะทางอารมณ์ และความสมบูรณ์ของร่างกาย มีหลักสูตรและกิจกรรมที่สร้างความรับผิดชอบ มีคุณธรรม ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี เสียสละ และมีจิตใจที่เป็นมิตรภาพบนความแตกต่างหลากหลาย เพื่อเป็นประชากรคุณภาพของประเทศและประชาคมโลก 

          ส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายอำนาจให้สถานศึกษาทุกระดับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน องค์การทางศาสนา ตลอดจน เอกชน พัฒนาครูให้มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบ ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการศึกษา จัดตั้งกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่เสมอภาคและเป็นธรรม รวมทั้งพัฒนาระบบสวัสดิการเพื่อการศึกษาแบบถ้วนหน้าจนถึงระดับปริญญาตรี ส่งเสริมสนับสนุนนักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาในต่างประเทศ สร้างโอกาสทางการศึกษาของผู้มีข้อจำกัดด้านเงินทุน โดยสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือการศึกษาที่ท้องถิ่นหรือชุมชนเป็นฝ่ายบริหารและดำเนินการ

          ในกรณีจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีรูปแบบการศึกษาเป็นการเฉพาะหลายรูปแบบให้ยกระดับคุณภาพ มาตรฐาน และอุดหนุนการจัดการศึกษาทุกระดับในโรงเรียนเอกชนสามัญ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ส่งเสริมการเรียนการสอนทางศาสนาของทุกศาสนาในสถาบันการศึกษารูปแบบต่างๆ ส่งเสริมให้มีค่าตอบแทนครูสอนศาสนา ส่งเสริมระบบการศึกษาบนฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรม ศาสนา และชาติพันธุ์ รวมทั้งพัฒนาความคิด สติปัญญา และศักยภาพของทุกชาติพันธุ์โดยเริ่มต้นจากภาษาแม่ อาทิ ภาษามลายู

          เพิ่มสิทธิและบทบาทของระบบการศึกษาทางเลือกและการศึกษาด้วยตัวเองของประชาชนในทุกช่วงวัย ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการศึกษาตามอัธยาศัยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและของโลก 

          สนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาให้สามารถทำหน้าที่จัดการเรียนการสอน วิจัย และบริการวิชาการแก่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเสรีภาพทางวิชาการ ตลอดจน  มีการสร้างความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้มีกองทุนสนับสนุนการวิจัยที่ท้องถิ่น นักวิจัย นักวิชาการ และสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ สามารถเข้าถึงทุนการวิจัยได้อย่างเท่าเทียมกัน

          ส่งเสริมและสนับสนุนระบบการวิจัยของประเทศให้สามารถตอบสนอง  ต่อความจำเป็นของสังคม ประชาชน และภาคธุรกิจ  รวมถึง มีการเผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยให้เกิดความรู้ การพัฒนา และนวัตกรรม รวมทั้งพัฒนาและจัดให้มีองค์กรด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในระดับชาติและระดับต่างๆ เพื่อประมวลผลข้อมูลจากงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศในทุกด้าน  

3.5.3 สตรี

          ส่งเสริมความเสมอภาคและความเป็นธรรมระหว่างเพศและขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการยอมรับบทบาทสตรี โดยเสริมพลังของสตรี สร้างช่องทางและกลไกให้แก่สตรีในการพัฒนา การบริหาร และการตัดสินใจในระดับต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สาธารณสุข สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรม ส่งเสริมศักยภาพ ตลอดจน สิทธิในทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้หญิง โดยเฉพาะสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดินและทรัพย์สินอื่น รวมทั้งการเข้าถึงการศึกษาในทุกระดับ การศึกษาด้านศาสนา และการศึกษาตลอดชีวิตของผู้หญิงทั้งในระบบและนอกระบบ สนับสนุนการยุติความรุนแรงต่อสตรี สนับสนุนให้สตรีสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับการคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด ส่งเสริมสุขภาวะและสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ของสตรี จัดตั้งสภาสตรีระดับจังหวัด ภาค และระดับชาติ พร้อมทั้ง จัดให้มีสถาบันพัฒนาสตรี ครอบครัว ชุมชน และท้องถิ่น

          เพิ่มศักยภาพกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และศักยภาพในการเป็นผู้นำ รวมถึง การมีส่วนร่วมในทางการเมืองของกลุ่มสตรี เพิ่มสัดส่วนของสตรีในระดับผู้บริหารเพื่อให้มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งภาคการเมือง ราชการ และเอกชน โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการว่าด้วยการจ้างงานเพื่อความเท่าเทียมและยุติธรรมของสตรี ทำหน้าที่เสนอแนะ  พร้อมทั้ง คัดกรองบุคคลเข้าทำงาน ตลอดจนพิจารณาตำแหน่งและค่าตอบแทนที่เท่าเทียมและเป็นธรรม

3.5.4 ศาสนาและจิตวิญญาณ

          ส่งเสริมสนับสนุนศาสนาทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน เน้นความเป็นพหุวัฒนธรรมในทางศาสนาและจิตวิญญาณ โดยให้ความเคารพ  ตลอดจน ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการนับถือและการปฏิบัติตามหลักบัญญัติของศาสนา นิกาย ลัทธินิยม และการยึดถือในทางจิตวิญญาณในลักษณะต่างๆ 

          ในส่วนของศาสนา เน้นปฏิรูปองค์กรการบริหารของทุกศาสนาให้มีธรรมาภิบาลและมีประสิทธิภาพในการพัฒนาสังคมบนฐานคุณธรรมและจริยธรรม แก้ไขกฎหมาย รวมถึง การจัดองค์กรในการสนับสนุนศาสนาให้เหมาะสมและเกิดความเสมอภาค ส่งเสริม ตลอดจน สนับสนุนงบประมาณในกิจกรรมทางศาสนา อาทิ การสนับสนุนการศึกษาพระพุทธศาสนา หรือทำบุญและการปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนา  ตลอดจน ธรรมเนียมประเพณีของชาวพุทธ และ การประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียของชาวมุสลิม เป็นต้น สนับสนุนสวัสดิการและค่าตอบแทนบุคลากรทางศาสนาของทุกศาสนา กรณีศาสนาพุทธ ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ บุคลากรและองค์กรในพระพุทธศาสนา กรณีศาสนาอิสลาม ได้แก่ อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น กรรมการอิสลามมัสยิด และกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ตลอดจนบุคลากรของศาสนาอื่นๆ รวมทั้งส่งเสริมให้มีกิจกรรมข้ามวัฒนธรรมระหว่างศาสนิกต่างศาสนาเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างกัน

          ปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล ที่การวินิจฉัยชี้ขาดกรณีแพ่งเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวและมรดกอิสลาม ที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามด้วยกันเป็นคู่ความหรือเป็นเจ้ามรดก ให้ใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกบังคับแทน โดยให้ดะโต๊ะยุติธรรมร่วมพิจารณาพิพากษาพร้อมกับผู้พิพากษา และให้ขยายไปยังพื้นอื่นที่มีประชากรเป็นมุสลิมหนาแน่นรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วย

3.5.5 แรงงานและระบบสวัสดิการ

          แรงงานมีสิทธิได้รับหลักประกันความปลอดภัยและสวัสดิภาพในการทำงาน  รวมถึง หลักประกันในการดำรงชีพทั้งในระหว่างการทำงานและเมื่อพ้นจากการทำงาน ส่งเสริมให้ประชากร วัยทำงานมีงานทำ พัฒนาทักษะแรงงานและการประกอบอาชีพ จัดระบบแรงงานสัมพันธ์ ตลอดจน ระบบไตรภาคีที่ผู้ทำงานมีสิทธิเลือกผู้แทนของตน จัดระบบประกันสังคม คุ้มครองให้ผู้ทำงานที่มีคุณค่าอย่างเดียวกันได้รับค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ และสวัสดิการที่เป็นธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งจัดให้มีหรือส่งเสริม การออมเพื่อการดำรงชีพเมื่อพ้นวัยทำงาน

          ส่งเสริม ตลอดจน คุ้มครองสิทธิแรงงานทุกเพศและวัย รวมทั้งสิทธิในการตั้งสหภาพแรงงานในทุกสาขาอาชีพและการนัดหยุดงาน พัฒนาระบบการจัดการแรงงานข้ามชาติในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ พัฒนาแรงงานกึ่งทักษะให้เป็นแรงงานที่มีทักษะ ส่งเสริมสนับสนุนแรงงานและผู้ประกอบการในต่างประเทศทั้งด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน การสนับสนุนแหล่งทุน การลดค่าใช้จ่ายและการดูแลสวัสดิภาพที่เหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมให้มีการปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติอย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาชาติหรือพลเมืองโลก 

          กรณีผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส ส่งเสริมการกระจายโอกาสและความมั่นคง     ในชีวิต ให้มีความรู้และมีกองทุนในการประกอบอาชีพตามความรู้ความสามารถ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

          จัดตั้ง “กองทุนผู้สูงอายุ” เพื่อดูแลสุขภาพและจิตใจ ตลอดจนให้มีพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ส่งเสริมการใช้เครื่องมือทางศาสนา  รวมถึง  วัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นในการทำให้ผู้สูงอายุตระหนักในศักยภาพและคุณค่าของตน พึ่งพาตนเองได้ และมีอิสรภาพในการกำหนดชีวิตในแบบของตน 

          ส่งเสริมระบบบำนาญแห่งชาติและสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่งรัฐต้องจัดให้ประชาชนอย่างเสมอหน้า ด้วย “สิทธิที่เสมอกัน” ไม่ว่ายากดีมีจน ภายใต้หลักการที่ว่าสวัสดิการเป็น “สิทธิ” อันพึงมีของประชาชน มิใช่เพียงแค่ “หน้าที่” ของรัฐในการสงเคราะห์คนอนาถา

3.5.6 สาธารณสุข

          การสาธารณสุขเป็นสวัสดิการและสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ มีการนำเทคโนโลยี ตลอดจนคลังข้อมูลมาใช้ใน การบริหารงบประมาณและบุคลากร พร้อมทั้งส่งเสริมให้เอกชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสุขภาพและการจัดบริการสาธารณสุข โดยผู้มีหน้าที่ให้บริการดังกล่าวซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรมย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย 

          ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและ   การป้องกันโรค โดยการบริการสาธารณสุขต้องครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม ตลอดจนการป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ 

          ส่งเสริม “การแพทย์พหุลักษณ์” ที่ตอบสนองต่อความแตกต่างทางสังคมวัฒนธรรม นิเวศวิทยา รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ พัฒนาแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการตรวจสุขภาพตามวิถีศาสนา ตลอดจน สนับสนุนให้มีการจัดตั้ง “ธนาคารอาหารสุขภาพประจำตำบล” เนื่องจากสารพิษปนเปื้อนในอาหารเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งของความเจ็บป่วยในปัจจุบัน 

3.5.7 การท่องเที่ยวและการกีฬา

          ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในมิติต่างๆ ให้ได้มาตรฐาน      โดยหมายรวมถึงการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว อาทิ ระบบการคมนาคม ระบบไฟฟ้า และระบบน้ำประปา ทั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม มีความสอดคล้องกับสภาพสังคม อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และอยู่บนฐานของความยั่งยืนของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม

          ส่งเสริมการกีฬารวมถึงวิทยาศาสตร์และเวชศาสตร์การกีฬา โดยจัดให้มีบริการสาธารณะด้านกีฬา มีการจัดตั้งสโมสรหรือศูนย์กีฬาชุมชนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ให้มีสนามและอุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน เพื่อให้บริการด้านการกีฬาแก่เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ สตรี รวมทั้ง ผู้พิการ ตลอดจนส่งเสริมให้เอกชนมีการลงทุนด้านการกีฬา โดยสร้างแรงจูงใจด้านสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ สิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้อื่นๆ ที่เหมาะสมเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงกีฬามากขึ้น 

          จัดตั้งสภากีฬาแห่งชาติ ประกอบด้วยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในทุกประเภทกีฬา ทำหน้าที่กำหนดนโยบายการกีฬาของชาติ มีการจัดตั้งสถาบันบริหารการกีฬาอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นกีฬาอาชีพ วิทยาศาสตร์การกีฬา และเวชศาสตร์การกีฬา เพื่อพัฒนาการกีฬาของชาติ รวมทั้งสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการแข่งขันทั้งในประเทศและนานาชาติ โดยให้มีสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้ง มีอุปกรณ์กีฬาที่ได้มาตรฐาน 

3.6 ด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

          ปฏิรูปกฎหมายด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่มีปัญหา โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รวมถึง ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย

          กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการใช้ที่ดินให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับระบบนิเวศ ความเป็นจริง วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน โดยต้องให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหลักเกณฑ์การใช้ที่ดินมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย 

          กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและดำเนินการให้เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิในที่ดินเพื่อประกอบการเกษตรอย่างทั่วถึง โดยการปฏิรูปที่ดิน การแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค และวิธีการอื่นๆ ทั้งในส่วนโฉนดรวมของชุมชนและที่ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดินในฐานะองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อให้คนจนเข้าถึง ตลอดจนมีความมั่นคงในที่ดินทำกิน และเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในกรณีที่รัฐได้ประกาศให้ที่ดินของประชาชนแต่เดิมเป็นพื้นที่ “ป่า”

            ส่งเสริมให้มีกฎหมายรับรองและคุ้มครองสิทธิชุมชนท้องถิ่นในการดำรงชีวิตอยู่ในป่า  รวมถึง ในเขตสงวนอื่นๆ ของรัฐ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ คุ้มครอง บํารุง รักษา ฟื้นฟู บริหารจัดการ ตลอดจน สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างสมดุลและยั่งยืน นอกจากนี้ การให้สัมปทาน  ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และสุขภาพของประชาชน ต้องให้ประชาชนรวมถึงชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์ เพื่อความเป็นธรรมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

          จัดให้มีแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเป็นระบบ ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมทั้งในส่วนของการสงวน บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์

          สนับสนุนและปรับปรุงกิจการและอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ให้มีความยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้ง ส่งเสริมให้ชุมชนมีสิทธิและบทบาทในการจัดการ ตลอดจน ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น

          ในด้านทรัพยากรประมงและชายฝั่ง ปฏิรูปกฎหมายประมงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและยั่งยืน สนับสนุน รวมถึง ปรับปรุงให้การประมงพาณิชย์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องมีความยั่งยืน ไม่ทำลายล้าง ตลอดจน เป็นไปตามหลักการคุ้มครองสวัสดิการแรงงาน กระจายอำนาจในการเข้าถึงและจัดการทรัพยากรอย่างเป็นธรรมระหว่างชาวประมงทุกกลุ่ม สำหรับพื้นที่ชายฝั่งที่เกี่ยวข้องกับท่าเทียบเรือและร่องน้ำ ส่งเสริมการจัดการอย่างมีส่วนร่วมที่คำนึงถึงความสมดุลของระบบนิเวศที่เอื้อต่อเรือประมงในประเทศและเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 

          ส่งเสริม บำรุงรักษา และคุ้มครองคุณภาพดินและสิ่งแวดล้อมตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนควบคุมและกำจัดมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย โดยประชาชน ชุมชนท้องถิ่น รวมถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการดำเนินงาน และจัดให้มีการวางผังเมืองที่ได้รับการดำเนินตามอย่างมีประสิทธิภาพ

          ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน โดยสนับสนุน ตลอดจนพัฒนาให้มีการผลิต ตลอดจนใช้พลังงานทางเลือกทั้งในระดับครัวเรือน ตลอดจนอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและกำกับทิศทางตลาดพลังงานบนผลประโยชน์ของส่วนรวม รวมทั้งนำระบบเทคโนโลยีมาช่วยจัดการการกระจายพลังงานให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ 

3.7 นโยบายด้านสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ

          พรรคประชาชาติเห็นความสำคัญต่อเสรีภาพของสื่อมวลชน เพราะเสรีภาพสื่อมวลชน คือเสรีภาพของประชาชน  ดังนั้น พรรคจะไม่ปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชน เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นตามสิทธิ เสรีภาพของประชาชนด้วย เพราะในสังคมพหุวัฒนธรรม การสื่อสาร สร้างความเข้าใจต่อกัน ต่อกันในสังคม เป็นนโยบายของพรรคประชาชาติ และจะส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทันสมัย เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในโลกปัจจุบัน

          การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและข้อมูลแบบเปิด (Open Data) การส่งเสริมภาครัฐให้จัดทำระบบสารสนเทศหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการประชาชน เช่น โครงข่ายอินเทอร์เน็ตโปรแกรมประยุกต์(Application/Mobile Application) เป็นต้น ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้บริการภาครัฐผ่านทางเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ รวมถึง การส่งเสริมให้มีการใช้บริการศูนย์สารสนเทศชุมชนให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของชุมชนหรือโอทอปการขายผลิตภัณฑ์เกษตรผ่านทางเครือข่ายออนไลน์ เป็นต้น และการเสริมความรู้ให้กับประชาชนเพื่อให้มีศักยภาพพัฒนาตนเองหรือเลือกใช้บริการภาครัฐสำหรับการส่งเสริมอาชีพและวิสาหกิจชุมชนได้ เพื่อให้ชุมชนเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการสร้างบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การให้ภาครัฐเป็นหน่วยงานหลักในการใช้เทคโนโลยีของประเทศ และการสร้างความร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในด้านทรัพยากรบุคคล โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีที่สำคัญ และนวัตกรรมที่แข่งขันได้ในระดับสากล

4. นโยบายแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ของประเทศ

4.1 ความขัดแย้งทางการเมือง

          ในช่วงทศวรรษเศษที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญกับความขัดแย้งทางการเมืองในลักษณะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในเขต “ชนบท” ได้ก่อให้เกิดกลุ่มคนที่มีความปรารถนาในชีวิต ตลอดจน จินตนาการทางสังคมและการเมืองแบบใหม่ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นส่งผลให้ประชาชนโดยเฉพาะที่อยู่ใน “ต่างจังหวัด” เกิดความตระหนักว่าการเมืองคือช่องทางในการเข้าถึงทรัพยากรสาธารณะซึ่งเคยกระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมกระตุ้นให้สังคมเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชน กลุ่ม องค์กร ในการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และประเทศ ขณะที่การเมืองเชิงนโยบายส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นช่องทางกระจายทรัพยากรสาธารณะอย่างเป็นธรรม และเป็นวิธีการขจัดความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมายาวนาน แต่ทว่าความปรารถนา จินตนาการ ความรู้ ความเข้าใจ และความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ขัดกับกับอำนาจ ผลประโยชน์ ระบบคุณค่า ความเชื่อ และอุดมการณ์ของคนบางกลุ่มในสังคม ก่อให้เกิดกระแสต่อต้าน การเผชิญหน้า รวมถึงการใช้กำลังแก้ไขปัญหา ซึ่งส่งผลให้ความขัดแย้งแหลมคมและซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องมีนโยบายคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศอย่างรอบคอบรัดกุม   

            ในระดับถัดมา ต้องเร่งฟื้นฟูและส่งเสริมขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมหรือ ภาคประชาสังคมให้กลับมามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของประชาชน ชุมชน สังคม และประเทศในลักษณะที่เป็นการหนุนเสริมการเมืองระบบรัฐสภา พร้อมกับสร้างความตระหนักในกลุ่มและองค์กรที่เกี่ยวข้องว่าปัญหาไม่ว่าจะเป็นด้านใดไม่สามารถแยกออกจากปัญหาการเมืองได้จำเป็นจะต้องแก้ปัญหาการเมืองไปด้วยในเวลาเดียวกัน และปัญหาการเมืองรวมถึงความขัดแย้งที่ผ่านมา ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม อีกทั้งการเห็นว่าบุคคลมีสิทธิ มีเสียง และมีคุณค่าไม่เสมอกัน 

          ในระยะยาว ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนและสังคมเห็นว่าความขัดแย้งเป็นสิ่งปกติของทุกสังคมที่ประกอบด้วยกลุ่มคนที่มีความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ความเชื่อ อุดมการณ์ ปัญหา ความต้องการ ความใฝ่ฝัน และผลประโยชน์ ซึ่งสามารถคลี่คลายได้ด้วยระบอบประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มได้เจรจาต่อรองกันอย่างเสมอหน้าและอย่างสันติ รวมไปถึง “สังคมพหุวัฒนธรรม” ที่คนกลุ่มต่างๆ มีความเคารพ อดทน ตลอดจน อดกลั้นต่อความแตกต่างหลากหลายของกันและกันโดยเฉพาะในด้านอุดมการณ์ ทางการเมือง    

4.2 เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

          ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่บางแห่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และบางอำเภอในจังหวัดสงขลา เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ และมีผลกระทบต่อความสงบสุข ขวัญ และกำลังใจของประชาชนในพื้นที่ จึงสมควรกำหนดให้มีการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในฐานะที่เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกับมีนโยบายสำคัญดังนี้

       · เร่งยุติความไม่สงบที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด รวมทั้งเร่งสร้างความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของคนในพื้นที่ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม ด้วยการสร้างพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในการอยู่ร่วมกันของสังคม สนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพโดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม รวมทั้งประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียนและโลกมุสลิมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาร่วมกัน 

       · ขจัดความรู้สึกหวาดระแวง อคติ และความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันของฝ่ายต่างๆ ในระดับพื้นที่และในระดับประเทศ ส่งเสริมการเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรมและความคิดเห็นในการอยู่ร่วมกัน 

       · ลดช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน ส่งเสริมให้มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความรู้ความสามารถ มีจริยธรรม และความคิดที่เปิดกว้างเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหาร การพัฒนา และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 

       · ปฏิรูปและปรับปรุงกฎหมายพิเศษที่ใช้บังคับในพื้นที่ ได้แก่ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กฎอัยการศึก และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้ประชาชนและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน รวมทั้งในขั้นตอนบังคับใช้กฎหมายด้วย ในหมู่บ้าน ชุมชน และสังคมเมือง ให้ใช้กำลังตำรวจและ/หรือพลเรือนดูแลความสงบและปลอดภัยตามอำนาจหน้าที่แทนกำลังทหารซึ่งต้องใช้ปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันประเทศ

       · เพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและการอำนวยความเป็นธรรม และสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมและตรวจสอบ นำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยในการค้นหาความจริง รวมทั้งนำกระบวนการยุติธรรมสมานฉันท์หรือยุติธรรมชุมชนที่อยู่บนฐานของหลักการศาสนามาปรับใช้ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งตลอดจนการเยียวยาหรือ ฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ เช่น เด็กกำพร้า หญิงหม้าย และมารดาผู้สูญเสีย 

          นอกจากนี้ การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีนโยบายด้านอื่นควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการศึกษา  การพัฒนาทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ ที่ให้ความสำคัญกับลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น ลักษณะทางภูมิศาสตร์และระบบนิเวศ ปัจจัยทางอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และศาสนา ตลอดจนเครือข่ายความสัมพันธ์ของผู้คนที่เชื่อมโยงกับนานาชาติรวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่ม พร้อมทั้งต้องมีนโยบายแก้ปัญหาเร่งด่วนที่เป็นความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของประชาชนในพื้นที่ด้วย ได้แก่ ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ  ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ดังที่ได้ระบุไว้แล้วในหมวดนโยบายรวมด้านต่างๆ