สภาถกร่างกม.กัญชา เดือด!!! “ทวี สอดส่อง” ซัดตั้งแต่คำปรารภไม่ชัด หวั่นไม่ใช้แค่การแพทย์-ห่วงเยาวชน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภาว่า วันนี้ (14 ธันวาคม 2565) ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฏร มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ…. วาระ 2-3 ตามที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ ทั้งนี้ได้มีสมาชิกที่สงวนความเห็นอภิปราย โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ในคำปรารภอาจส่อไปให้ในทางกัญชาเสรี ก่อนออกประกาศ รัฐมนตรีบางคนให้ญาติไปตั้งบริษัท ที่อาจนำไปสู่การค้ากัญชาเสรี ขยายจากทางการแพทย์เพื่อไปสู่อุตสาหกรรม เราได้ถูกสั่งสอน ฝ่ายนิติบัญญัติต้องออกกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชน กันไว้ดีกว่าแก้ การที่กฎหมายออกมาส่งเสริม ทำลายความเป็นมนุษย์

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อภิปรายว่า ผมขออภิปรายในส่วนของคำปรารภ ซึ่งผมถือว่ามีความสำคัญและก็ส่อไปในทางมิชอบหรือฉ้อฉลก็ว่าได้ เพราะเปิดฉากของคำปรารภว่า โดยประมวลยาเสพติดไม่ได้กำหนดกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ท่านประธานที่เคารพแค่เริ่มต้นก็เป็นการพูดไม่จริงพูดไม่ครบ เราต้องยอมรับว่าประมวลยาเสพติดที่เราร่างกันผ่านสภานั้นเป็นการรวมกฎหมายยาเสพติดมารวมกัน โดยในหมวดยาเสพติดประเภทที่ 5 เป็นเพียงการยกตัวอย่าง ซึ่งตัวอย่างไม่ได้มีกัญชา แต่อย่างไรก็ตามในการยกตัวอย่างครั้งดังกล่าว ที่ผมเห็นว่าส่อไปในทางไม่ชอบในการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ แล้วผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ไม่รับหลักการในร่าง พ.ร.บ.กัญชา และเป็นผู้หนึ่งในการสงวนคำแปรญัตติ เพราะว่าการเสนอญัตติเข้ามาในสภา ได้เสนอเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงที่เสนอนั้น ในประมวลกฎหมายยาเสพติดเราได้เขียนไว้ที่ค่อนข้างชัดเจนว่า มาตรา 8 บัญญัติไว้ว่า กรณีของกฎหมายยาเสพติดที่ใช้ก่อนประมวลกฎหมายยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นประกาศยาเสพติด ย่อมมีผลใช้บังคับอยู่ ดังนั้นในก่อนวันที่ 27 มกราคม 2565 กัญชายังมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 อยู่ การจั่วหัวว่ากัญชาไม่เป็นยาเสพติดในช่วงเสนอ ผมถือว่ามีเจตนาที่ไม่ชอบ
พ.ต.อ.ทวี อภิปรายต่อว่า ท่านประธานที่เคารพ ผมอยากจะหยิบยกเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม ก็คือมีศาลยุติธรรมได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด หลังจากมีประมวลกฎหมายใช้บังคับแล้ว คือคดีศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นการพิจารณาชัดเจน หลังประมวลยาเสพติดนี้ใช้ เนื่องจากว่ามีการจับกุมกัญชา แล้วศาลก็ได้ลงโทษจำคุกกับผู้ที่ปลูกกัญชาดังกล่าว โดยระบุว่า พ.ร.บ.ยาเสพติด 2522 ที่มีผลใช้บังคับ เพราะประมวลยาเสพติดที่เราออกมายังให้ประกาศใช้อยู่ ดังนั้นเมื่อเรามีจุดเริ่มต้นประกาศว่าไม่ให้กัญชาเป็นยาเสพติด ผมถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่ากัญชาในประเทศไทยได้ถูกบัญญัติไว้เป็นยาเสพติดมานานถึง 88 ปี ตั้งแต่มีกฎหมาย พ.ศ.2499 แล้วก็เรื่อยมาจนถึงมีประมวลกฎหมายยาเสพติดใช้ก็ยังเป็นยาเสพติด


“ที่สำคัญอย่างยิ่งการที่ไม่กำหนดกัญชาเป็นยาเสพติด จริงๆไม่ควรจะเขียนประโยคนี้ เพราะว่าเป็นการท้าทายกับพันธกรณีต่างๆ ที่เราเข้าไปสู่สหประชาชาติ เพราะในกลุ่มประเทศสหประชาชาติเราจะเห็นว่ามีจำนวน 199 ประเทศ ประมาณ 195 ประเทศ ไม่รวมถึง อเมริกา แคนนาดา ที่ไม่ได้เขียนถึงขนาดเป็นยาเสพติด แต่มีมาตรการควบคุมที่เคร่งครัด หรือ 97% เขากำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด นโยบายของรัฐบาลที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ เราประกาศยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยบอกว่าการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น เราจะต้องร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในเมื่อประเทศทั้งโลกบัญญัติว่ากัญชาเป็นยาเสพติด แล้วการจะแก้ปัญหายาเสพติด โดยกัญชาที่มีการนำเข้า ส่งออก เมื่อประเทศไทยไปประกาศตัวเองว่ากัญชาไม่เป็นยาเสพติด ผมถือว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ค่อนข้างมีความอันตรายอย่างยิ่ง ดังนั้นผมจึงจะขอให้ตัดคำปรารภว่า โดยที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดไม่ได้กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษอันนี้ตัดไป และเรายังพบว่าในคำปรารภมีหลายตอนที่ส่อไปเป็นกัญชาเสรี ซึ่งเดี๋ยวผมจะขออภิปรายในมาตราต่อไป เพราะว่าในช่วงที่ก่อนประกาศมีรัฐมนตรีบางคนให้ญาติไปตั้งบริษัทเพื่อจะค้ากัญชาเสรีเหมือนกัน เช่น มีข้อความว่าขยายจากการแพทย์ไปเรื่องอุตสาหกรรม เปิดโอกาสให้มีการผลิต การขาย การนำเข้า การส่งออก หรือการครอบครอง เพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจ ท่านประธานที่เคารพ เราได้ถูกสั่งสอนมาโดยตลอดว่า ฝ่ายนิติบัญญัติเราจะต้องออกกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือการกันไว้ดีกว่าแก้ การที่กฎหมายออกมาเพื่อส่งเสริมให้ทำลายความเป็นมนุษย์ก็คือความเป็นยาเสพติด ผมถือว่ากฎหมายนั้นเราต้องออกอย่างระมัดระวัง ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยกับคำปรารภ และขอให้ตัดถ้อยคำที่ผมกล่าวเมื่อสักครู่ออกครับ กราบขอบพระคุณครับ” พ.ต.อ.ทวี อภิปราย
#ประชาชนประชาชาติ