พรรคประชาชาติ

ชาติของประชาชน บนฐานสังคมพหุวัฒนธรรม

(30 ตุลาคม 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องรับรองชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ พลจัตวา ดร.อับดุลลา ยูซุฟ อัล-มาล (His Excellency Major General Dr. Abdulla Yusuf Al-mal) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐกาตาร์ ในฐานะผู้แทนรัฐบาลกาต้าร์ และคณะ โดยต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือให้ใกล้ชิดกัน และหารือความร่วมมือระหว่างสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย และรัฐกาต้าร์ เกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานและการขยายผลการอนุวัติข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ในระดับโลก

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับการมาเยือนประเทศไทยของคณะผู้แทนจากรัฐบาลกาตาร์ในวันนี้ ประเทศไทยและรัฐกาตาร์มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด และขอบคุณรัฐบาลกาตาร์ในการสนับสนุนภารกิจของภารกิจของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยเฉพาะการสนับสนุนการดำเนินงานของสโมสรกีฬา Bounce Be Good (BBG) นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังหญิง และการอนุวัติข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) จึงหวังว่ารัฐบาลกาตาร์จะสนับสนุน การดำเนินโครงการพัฒนายุทธศาสตร์รายภูมิภาคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลักดันมาตรฐาน การอนุวัติข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ไปสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืนในระดับสากลร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยต่อไป

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

1.) ปฏิญญาโดฮา (Doha Declaration) ซึ่งเป็นผลผลิตสำคัญของการประชุมสหประชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (UN Crime Congress) สมัยที่ 13 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ถือเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศที่สำคัญและเป็นแนวทาง ในการยกระดับการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของโลก ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะการส่งเสริมหลักนิติธรรม การเข้าถึงความยุติธรรมและการส่งเสริมบทบาทของกระทรวงยุติธรรมในการมุ่งเน้นการป้องกันและรับมือกับปัญหาอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ

2.) นโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายสำคัญ มุ่งฟื้นฟูหลักนิติธรรม ให้มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศในการส่งเสริมและสนับสนุนอนุมัติข้อกำหนดกรุงเทพ ด้วยการ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง และมาตราการที่ไม่ใช่การคุมขัง ส่งผลกระทบในด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรม ทางอาญาในกลุ่มผู้เปราะบาง การบำบัดและฟื้นฟูผู้ต้องขังเพื่อไม่ให้กลับไปกระทำผิดซ้ำ และการให้โอกาสแก่ผู้พ้นโทษให้กลับคืนสู่สังคม ได้อย่างปกติสุข ซึ่งถือเป็นการลงทุนในการสร้างมนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดมูลค่าในการเชิงสังคม และเศรษฐกิจ และความมั่นคงในชีวิตที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ นโยบายสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ 3.) การฝึกฝนอบรมบุคลากรให้มีความพร้อมในการรับมือกับอาชญากรรมที่มีความซับซ้อน โดยสถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ (DSI Academy) มีภารกิจในการพัฒนาทักษะของบุคลากรในด้านการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ให้สามารถรับมือกับอาชญากรรมที่มีซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเยือนประเทศไทยของจากรัฐบาลกาตาร์ และการไปเยี่ยมชม DSI Academy ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการกระชับความสัมพันธ์กับรัฐกาตาร์ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้าน การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมร่วมกันต่อไปในอนาคต


หลังเสร็จสิ้นการหารือ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง ให้กับ พลจัตวา ดร.อับดุลลา ยูซุฟ อัล-มาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐกาตาร์ เป็นที่ระลึก ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมและศึกษาการปฏิบัติงาน ณ สถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ DSI Academy ในช่วงบ่าย และในวันพรุ่งนี้ (31 ตุลาคม 2566) ที่ ทัณฑสถานหญิงกลาง เวลา 10.00 น.

#ประชาชนประชาชาติ