
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ บารู สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี เขต 1 พรรคประชาชาติ ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 6 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ในวาระรับทราบรายงานประจำปี 2565 ผลการประเมินการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ต้องขอขอบคุณทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่มาให้ความรู้ และรายละเอียดต่าง ๆ สิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องสากล เป็นเรื่องของคนทุกคน ประกอบกับประเทศไทย โดยอัตลักษณ์ และนิสัยของคนไทยมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อทุกคนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่ในบางกรณีของผู้ลี้ภัยมันเป็นเรื่องน่าเศร้า ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคม ได้รับรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยจํานวน 13 คน เป็นอัตราที่สูงมาก ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ก็คงทราบดี
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนอายุยังไม่ถึง 50 ปี คําถามที่ตามมาคือ การปฏิบัติต่อคนเหล่านี้ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ การดูแลทางการแพทย์สิทธิประโยชน์เป็นสากล ? โดยลักษณะของคนไทยแล้ว ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จิตใจที่งดงาม จะไม่เป็นลักษณะอย่างนี้
ผมยกตัวอย่างเช่นว่า ผู้ลี้ภัยชาวปาปัวนิวกินีที่ถูกจับทางภาคใต้ และส่วนหนึ่งก็ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะผู้ลี้ภัยผู้ชาย ไม่รู้ว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นเด็กและผู้หญิงที่ถูกส่งไปที่ประเทศตุรกี ทําไมต้องเป็นประเทศตุรกี เพราะความสัมพันธ์ของคนเหล่านี้กับเชื้อชาติ เพราะว่าเชื้อสายค่อนข้างที่จะใกล้ชิด
30 คน ที่เสียชีวิตไป 3 คนเป็น อุยกูร์ นอกนั้นไม่ใช่คนอุยกูร์ ตรงนี้ถ้าหาก ว่าสิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิที่เป็นสากลแล้ว ก็ควรที่จะดูแลคนเหล่านี้ไม่ใช่กักขังไว้ที่ ตม. ที่สวนพลู ในสถานที่แคบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าผู้ลี้ภัย เช่น อุยกูร์ เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ในประเทศไทย แต่เขาต้องการที่จะไปยังประเทศมาเลเซีย
แต่เนื่องจากว่า การเข้ามาของคนเหล่านี้มาในปี 2557 เป็นปีที่มีการปฏิวัติพอดี เพราะในช่วงเวลานั้น จนถึงขณะนี้เกือบจะสิบปีแล้ว คนเหล่านี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ได้รับการปฏิบัติเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่ทางออกมีมากมาย ผมเข้าใจว่าทาง ตม.เอง ก็คงกระอักกระอ่วน แล้วคนเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ผิด เป็นฆาตกร แต่เป็นผู้ลี้ภัยมา และก็ถูกรับรองโดยกฎหมายสากลข้อพันธกรณีอะไรต่างๆ โดยยูเอ็น เพราะถ้าหากว่ารัฐบาลไทยทําไม่ได้ จะส่งผลไปยังประเทศที่เขาต้องการจะไปไม่ได้ ก็ควรที่จะ ปฏิบัติต่อเขาให้ดี หรือถ้าหากว่า ความประสงค์ของเขา เช่น ทางประเทศตุรกีต้องการเขาให้ไปอยู่ที่นั่น แล้วคนเหล่านี้ก็มีความต้องการที่จะไป ถ้าหากส่งเขาไป เขาก็จะได้เจอครอบครัวเขาที่นั่น อย่าลืมว่า โอเอซีก็ดูในเรื่องเหล่านี้ด้วย กสม. เราก็ต้องระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้ด้วย

หากไม่สามารถที่จะดําเนินการตามที่เขาต้องการได้ ก็ควรที่จะให้หน่วยงาน ยกตัวอย่างเช่น โอนสิทธิ์เลือกประเทศที่เขาต้องการที่จะไป ให้เขาเลือกประเทศ ให้ทางผลัดตรงนี้ แทนที่จะเป็นประเทศไทยผลัดเขาออกไป เราคุมขังเขา เขาเป็นมนุษย์ ทีนี้เราให้เขาอยู่ในลักษณะสภาพที่คับแคบ สามารถจะไปดูได้นะครับ ที่สวนพลู ห้องขังปกติธรรมดานี่แหละครับ คนเหล่านี้บางทีสุขภาพอนามัยให้เขาได้ออกกําลังกาย ให้เขาได้ขยับร่างกาย ได้ขยับตัวอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ หรือไม่ถ้าหากว่า ตั้งแคมป์ตั้งอะไรขึ้นมาเขาสามารถที่จะอยู่ในลักษณะของชุมชน สุขภาพอนามัยของคนเหล่านี้ก็จะดีขึ้น ก็จะได้รับการดูแล ที่สําคัญที่เสียชีวิตไป ทั้งสิบสามคนปรากฏว่าไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรในเรื่องลักษณะของทางการแพทย์ ผมถือว่าอันนี้มันโหดร้ายจนเกินไปกับนิสัยของคนไทย ที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อันนี้ต้องดูเลยเป็นภาพลักษณ์ของประเทศไทยทั้งหมด ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาพลักษณ์ เป็นอัตลักษณ์ของคนไทยที่ถูกยอมรับไปทั่วโลก
ผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าถ้าหากเราจัดการไม่ได้ทางออกมันมีอีกเยอะ ที่จะให้คนเหล่านี้ เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้เป็น ฆาตกร เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็นครับ
#ประชาชนประชาชาติ